หลังจากที่วันก่อนสอบทฤษฎีและสอบขับรถผ่าน วันรุ่งขึ้นเรายังไม่ได้เอาเอกสารไปยื่นขอใบขับขี่ เพราะฟ้าครึ้มๆ ฝนจะตก วันถัดมาเราถึงจะไปขนส่ง ไปเอาใบขับขี่และเงินค่ามัดจำเรียนคืน (2,000 บาท) ไปอาคาร 4 ชั้น 2 ก่อนเลยเอาเอกสารที่ได้จากวันที่สอบผ่านไปยื่นไปถ่ายรูปทำใบขับขี่ก่อนเลย แต่คนเยอะมากๆ เราไปตอน 10 โมงกว่าเกือบ 11 โมง ได้คิวที่ 300 กว่า (อีกประมาณเกือบร้อยคิวกว่าจะถึงเรา เหอะๆ) เหมือนจะนานใช่มั้ยแต่จริงๆแป๊ปเดียวนะ รอประมาณครึ่งชั่วโมงได้ นึกขึ้นได้เลยไปอาคาร 1 ชั้น 1 เพื่อที่ขอเงินค่ามัดจำเรียนขับรถคืน เสร็จเราก็เดินมาอาคาร 4 นั่งได้สักพัก ไฟดับซะงั้น เห่อๆ เอาไงดีละ รออีกสักพักเจ้าหน้าที่บอกว่าให้ไปทานข้าวก่อนได้เลย เพราะไม่รู้เมื่อไหร่ กว่าไฟจะมา เลยไปข้าว ข้างๆ อาคาร 9 เสร็จ ก็เดินขึ้นไปใหม่ ปรากฎว่า แป๊ปเดียว ก็ถึงคิวเราละ เย้ๆ
พอเจ้าหน้าที่เรียกเราก็เดินเข้าคิดว่าจะให้ถ่ายรูปเลยเราก็แอคซะ จัดทรงผมหลายรอบไม่เห็นให้ถ่ายรูปซะที แต่ให้จ่ายเงินค่าทำบัตร 205 บาท และเซ็นเอกสาร ก้มๆเงยๆ ผมยุ่งเลย เจ้าหน้าที่บอกว่าถ่ายรูปคะ (ซะงั้น แป้งก็ไม่ได้ทา) พอถ่ายเสร็จ เจ้าหน้าที่บอกว่าโอเคมั้ยคะ เราดูยังไม่ทันอ่าปากเลย เจ้าหน้าที่บอกว่าโอเคแล้วนะคะ (กด save ก่อนที่จะบอกเราว่าโอเคอีกอ่ะ เห่อๆ) ก็เลยหย่วนๆเพราะรูปบัตรก็ไม่ถึงกับขี้เหล่ เพราะคนถ่ายหน้าตาดีอยู่แล้ว (อิอิ หลงตัวเอง) อีกอย่างคนนั่งรอคิวเยอะอยู่ ที่สำคัญบัตรที่ได้มาก็เป็นบัตรชั่วคราว 1 ปี ปีหน้าก็ต้องมาทำบัตรใหม่ และที่สำคัญห้ามลืม คือ ใบรับรองแพทย์
-->
ตอนนี้ได้บัตรมาครอบครองแล้วแต่รอว่าเมื่อไหร่จะได้รถซะที......
ลืมบอกไปว่าตอนไปอบรมทฤษฎีถ้าใครได้ซื้อคู่มือ คู่มือก็จะหน้าตาแบบนี้
คู่มือสอบใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ เนื้อหาอธิบายความรู้เกี่ยวกับกฎจราจร การใช้รถใช้ถนนให้ถูกต้องและปลอดภัย
แสดงภาพจำลองสถานการณ์ต่างๆ เนื้อหาอยู่ในส่วนท้ายๆ
ถือว่าใช้ในการเตรียมตัวสอบได้ดีเลยทีเดียว ส่วนรายละเอียดประกอบด้วย
- คำนิยาม
- การใช้รถ
- การใช้ไฟ
หรือเสียงสัญญาณของรถ
- การบรรทุก
- สัญญาณจราจร
และเครื่องหมายจราจร
- การขับรถ
- การขับรถแซง
และผ่านขึ้นหน้า
- การออกรถ การเลี้ยวรถ
และการกลับรถ
- การหยุดรถ
และจอดรถ
-
ข้อกำหนดเกี่ยวกับความเร็วของรถ
- การขับรถผ่านทางร่วมทางแยก
หรือวงเวียน
- รถฉุกเฉิน
- การลากรถ
หรือการจูงรถ
- อุบัติเหตุ
- ลักษณะป้ายจราจร
และเครื่องหมายบนพื้นทาง
แต่ที่ออกสอบหลายๆข้อก็จะเป็นพวกป้ายนี้แหละ
ป้ายจราจรแบ่งเป็น 3 ประเภท
1. ป้ายบังคับ ได้แก่ ป้ายจราจรที่มีความหมายเป็นการบังคับให้ผู้ใช้ทางปฏิบัติตามเครื่องหมายที่ ปรากฎอยู่ในป้ายนั้น โดยให้ผู้ใช้ทางต้องกระทำ งดเว้นการกระทำ หรือจำกัดการกระทำในบางประการ หรือบางลักษณะ
1. ป้ายบังคับ ได้แก่ ป้ายจราจรที่มีความหมายเป็นการบังคับให้ผู้ใช้ทางปฏิบัติตามเครื่องหมายที่ ปรากฎอยู่ในป้ายนั้น โดยให้ผู้ใช้ทางต้องกระทำ งดเว้นการกระทำ หรือจำกัดการกระทำในบางประการ หรือบางลักษณะ
2. ป้ายเตือน ได้แก่ ป้ายจราจรที่มีความหมายเป็นการเตือนผู้ใช้ทางให้ทราบล่วงหน้าถึงสถาพทาง หรือข้อมูลบางอย่างที่เกิดขึ้นในทางข้างหน้า ซึ่งอาจเป็นอันตราย หรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ เพื่อให้ผู้ใช้ทางระมัดระวังในการใช้ทาง
3. ป้ายแนะนำ ได้แก่ ป้ายจราจรที่มีความหมายเป็นการแนะนำให้ผู้ใช้ทางทราบข้อมูลเกี่ยวกับการเดิน ทาง และการจราจร เช่น เส้นทางที่จะใช้ ทิศทาง ระยะทาง สถานที่ เพื่อประโยชน์ในการเดินทาง และการจราจร
จริงๆก่อนไปเรียนทฤษฎีเจอ เว็บไซด์นึงให้ดาวน์โหลดคู่มือมาอ่านได้ แต่ปริ้นออกมาก็หลายหน้าอยู่ พอไปเรียนเห็นว่าเล่มละ 50 บาท ก็เลยซื้อมา แต่ถ้าไม่อยากซื้อ ดาวน์โหลดได้จากที่นี่เลย
(ปล.ถ้าเปิดด้วย IE ไม่ได้ลองเปิดด้วย browser อื่นดู เช่น firefox, chome)
(ขอขอบคุณ http://www.drivingdd.com ที่นำคู่มือมาให้ดาวน์โหลดอ่านกัน ^_^)